คาเมลล่า28 (Camella28)

คาเมลล่า28

                คาเมลล่า (Camella) และ คาเมลล่า28 (Camella28) ผลิตโดยบริษัทไทยนครพัฒนา จำกัด (Thai Nakorn Patana co.ltd) ราคาประมาณ 110 – 130 บาท ทั้งคู่เป็นยาคุมสูตรเดียวกัน โดยคาเมลล่า28 เป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน

                ในแผงยาคุม คาเมลล่า28 จะมีเม็ดยาเคลือบน้ำตาล (Sugar coated tablet) จำนวน 28 เม็ด โดยแบ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนสีเหลืองจำนวน 21 เม็ด และเม็ดยาหลอกสีขาวอีก 7 เม็ด

ในแผงของ คาเมลล่า28 จะมีเม็ดยาฮอร์โมนสีเหลือง 21 เม็ด และเม็ดยาหลอกสีขาว 7 เม็ด

                เม็ดยาฮอร์โมนแต่ละเม็ดจะมีตัวยาเหมือนกัน นั่นคือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจนชื่อว่าเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinylestradiol) 0.030 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่าเจสโตดีน (Gestodene) 0.075 มิลลิกรัม

                ส่วนเม็ดยาหลอกไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ

                คาเมลล่า28 เป็นยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออลต่ำ (Low dose pills) อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ บวมน้ำ หรือการเกิดฝ้า จึงพบน้อยกว่ายาคุมฮอร์โมนสูง

                ปัญหาเรื่องสิว หน้ามัน หรือขนดก ก็พบได้น้อยเช่นกัน เพราะแม้ว่าฤทธิ์แอนโดรเจนของเจสโตดีนจะสูงกว่าโปรเจสตินรุ่นที่ 3 ตัวอื่น แต่ก็มีการใช้ในขนาดที่ต่ำมาก

                และแม้ว่าเจสโตดีนจะมีผลต้านการบวมน้ำในสัตว์ทดลอง แต่ คาเมลล่า28 ก็ไม่ถือว่าเป็นยาคุมที่มีผลต้านการบวมน้ำ เพราะพบผลดังกล่าวน้อยมากหรือไม่พบเลยในมนุษย์

                การรับประทานยาคุมกำเนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด โดยการใช้ยาคุมสูตรที่มีเอทธินิลเอสตราไดออลรวมกับเจสโตดีน ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นมากหากนำมาใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย

                เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตัน การเกิดมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ หรือการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง/โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวนะคะ

                ถ้าหาซื้อ คาเมลล่า28 ไม่ได้ สามารถใช้ โกวานาอีดี (GovanaED) ซึ่งเป็นยาคุมรูปแบบ 28 เม็ดเหมือนกันแทนได้

                หรืออาจเปลี่ยนไปใช้ยาคุมรูปแบบ 21 เม็ดที่มีตัวยาเหมือนกัน อย่าง คาเมลล่า (Camella) และ โกวานา (Govana) ก็ได้ค่ะ

                ควรเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่

                ในกรณีนี้ ยาคุมจะยับยั้งการตกไข่ในรอบเดือนนั้นเลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดทันทีที่เริ่มใช้

                หรือจะเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกโดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อนก็ได้ ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้กำลังตั้งครรภ์

                แต่ต้องรับประทาน คาเมลล่า28 ติดต่อกันครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิด ในระหว่างนั้น หากไม่มีผลป้องกันจากวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อยู่ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย

                แนะนำให้รับประทาน คาเมลล่า28 วันละครั้ง ในเวลาก่อนนอน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะลืมใช้ และลดอาการคลื่นไส้/อาเจียนที่อาจเกิดขึ้น

                และควรรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์

                มีตัวเลข 1 – 28 ระบุไว้ในแผงของ คาเมลล่า28 โดยให้เริ่มรับประทานจากหมายเลข 1 แล้วใช้ต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนถึงหมายเลข 28

การใช้ยาคุมคาเมลล่า28 เรียงตามลำดับ 1 - 28

                ประจำเดือนมักจะมาประมาณเม็ดที่ 24 หรือ 25 ของแผง หรืออาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

                เมื่อหมดแผงเดิมแล้วก็ให้เริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหายดีก่อน

                หากลืมรับประทานเม็ดสีขาว ซึ่งเป็นเม็ดยาหลอกของ คาเมลล่า28 ให้แกะเม็ดที่ลืมทิ้งไป แล้วใช้เม็ดที่เหลือตามปกติ สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้ตามกำหนด โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

                แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดสีเหลือง ซึ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนของ คาเมลล่า28 ไม่ว่าจะลืมแค่วันเดียว หรือลืมติดต่อกันหลายวัน ให้รับประทานเม็ดที่ลืม 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทานยาคุมในเวลาที่เคยใช้ประจำอีก 1 เม็ด

                หรือรับประทานทั้ง 2 เม็ดนั้นพร้อมกัน ถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว

                จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ดตามเดิม

                อ้างอิงแนวทางขององค์การอนามัยโลก (Selected practice recommendations for contraceptive use – 3rd edition; 2016) ในกรณีที่ลืมรับประทานยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออล 0.030 – 0.035 มิลลิกรัม

                หากเริ่มใช้ยาคุม คาเมลล่า28 แผงดังกล่าวถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นแล้ว ถ้าลืมเม็ดยาฮอร์โมนไม่ถึง 72 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรต้องใช้ ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม

                แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป มีข้อแนะนำดังนี้…

  1. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไปจนกว่าจะได้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันครบ 7 วันก่อน
  2. ถ้าลืมในช่วงสัปดาห์แรก และมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีที่ทำได้ ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
  3. หากลืมในช่วงหลัง ๆ และเหลือเม็ดยาฮอร์โมนให้ใช้ต่อไม่ถึง 7 วัน หรือถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว เมื่อใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดก็ให้ต่อแผงใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องรับประทานเม็ดยาหลอกในแผงเดิม

                การลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในช่วงท้าย ๆ ของแผง อาจทำให้ในรอบนี้มีประจำเดือนมาเร็วกว่าวันที่คาดไว้เดิม

                หรือการที่ต่อยาคุมแผงใหม่โดยข้ามเม็ดยาหลอก ก็อาจทำให้ประจำเดือนถูกเลื่อนออกไป โดยจะมาในช่วงที่ใช้เม็ดยาหลอกของแผงใหม่ค่ะ