ควรเลือกยาคุม 21 เม็ดหรือ 28 เม็ด

ควรเลือกยาคุม 21 เม็ดหรือ 28 เม็ด

                มียาคุมบางยี่ห้อ ที่มีทั้งแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ดให้เลือกใช้ ยกตัวอย่างเช่น แอนนี่ลินน์ – แอนนี่ลินน์28, คาเมลล่า – คาเมลล่า28, คลาเรนซ์ – คลาเรนซ์28, ดิออร์รา21 – ดิออร์รา28, โกวานา – โกวานาอีดี, เลสซิลอน21 – เลสซิลอน28, มาร์วีลอน – มาร์วีลอน28, เมลลิแอน – เมลลิแอนอีดี, เมอซิลอน – เมอซิลอน28, มินนี่ – มินนี่28, พรีม – พรีม28,  ริต้า21 – ริต้า28 และ ซูซี่ – ซูซี่28

                สงสัยกันหรือเปล่าคะว่าทั้ง 2 รูปแบบนั้นต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่ดีกว่า

                ทุกยี่ห้อที่กล่าวมาข้างต้น เป็นยาคุมสูตร 21/7 นั่นหมายถึง ผู้ใช้ยาคุมยี่ห้อดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือแบบ 28 เม็ด จะได้รับฮอร์โมน 21 วัน และมีช่วงปลอดฮอร์โมนอีก 7 วัน

ยาคุมแบบ 21 เม็ด จะมีเฉพาะเม็ดยาฮอร์โมน ส่วนยาคุมแบบ 28 เม็ด จะมีทั้งเม็ดยาฮอร์โมนและเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง

                สำหรับยาคุมแบบ 21 เม็ด ทุก ๆ เม็ดในแผงก็คือเม็ดยาฮอร์โมน ส่วนยาคุมแบบ 28 เม็ด เม็ดยาฮอร์โมนจะอยู่ในลำดับที่ 1 – 21 ของแผง

                โดยยาคุมยี่ห้อเดียวกัน ก็จะใช้ฮอร์โมนชนิดเดียวกัน และใช้ในปริมาณที่เท่ากันค่ะ

                เมื่อรับประทานยาคุมแบบ 21 หมดแผงแล้ว ผู้ใช้ก็จะเว้นว่าง 7 วันเพื่อเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนให้ประจำเดือนมา

                ในขณะที่ผู้ใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนในลำดับที่ 1 – 21 ครบแล้ว ก็จะรับประทานเม็ดยาหลอกในลำดับที่ 22 – 28 ต่อ

                ซึ่งช่วง 7 วันที่รับประทานเม็ดยาหลอก ก็คือช่วงปลอดฮอร์โมนเพื่อให้ประจำเดือนมานั่นเอง

                โดยเม็ดยาหลอกของยาคุมแบบ 28 เม็ด ทุกยี่ห้อที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงแค่เม็ดแป้ง ไม่ได้มีฤทธิ์ทางยาใด ๆ

                เมื่อเปรียบเทียบยาคุมยี่ห้อเดียวกัน ระหว่างรูปแบบ 21 เม็ดกับรูปแบบ 28 เม็ด จะเห็นได้ว่า หากรับประทานถูกต้อง ผู้ใช้ก็จะได้รับฮอร์โมนชนิดเดียวกัน และในปริมาณที่เท่ากัน

                ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจึงไม่แตกต่างกันเลยนะคะ

                เมื่อเปรียบเทียบต่อในด้านราคา สำหรับยาคุมยี่ห้อเดียวกัน ก็จะมีราคาจำหน่ายเท่ากันค่ะ

            โดยเป็นการเปรียบเทียบราคาจากร้านเดียวกัน และในช่วงเวลาเดียวกันนะคะ       

            เพราะยาคุมยี่ห้อเดียวกันอาจมีราคาต่างกันเมื่อซื้อจากต่างที่ ขึ้นกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายของแต่ละร้าน หรือแม้กระทั่งยาคุมที่ซื้อจากร้านเดิม ก็อาจมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

                เมื่อไม่มีความแตกต่างกันตามที่กล่าวไปข้างต้น คุณสมบัติและราคาจึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะนำมาตัดสินใจว่า ควรเลือกใช้ยาคุมยี่ห้อนั้น ๆ แบบ 21 เม็ดหรือ 28 เม็ด

                นอกจากจำนวนเม็ดยารวมในแผง สิ่งที่แตกต่างกัน และเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกรูปแบบ ก็คือวิธีการใช้ค่ะ

                เนื่องจากทุก ๆ เม็ดในแผงของยาคุมแบบ 21 เม็ด มีตัวยาเหมือนกันทั้งหมด การใช้เม็ดยาเม็ดใดก่อนหรือหลัง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด หากผู้ใช้ยังคงรับประทานต่อเนื่องและตรงเวลาสม่ำเสมอ

                การระบุลำดับในแผงตาม “ตัวย่อของวันในสัปดาห์” ก็เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประจำวัน และสร้างความมั่นใจว่าหากใช้ตรงตามลำดับดังกล่าว ก็หมายถึงว่าได้รับประทานยาคุมต่อเนื่องกันครบ 21 วันแน่นอน

ยาคุมแบบ 21 เม็ด เรียงลำดับตามวันในสัปดาห์ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประจำวัน

                เช่น หากผู้ใช้แกะเม็ดยาของวันพุธมารับประทานในวันพุธไปแล้ว แต่กลับลืมและเตรียมจะรับประทานอีก ก็จะเห็นว่าเม็ดยาที่รอการใช้ตามลำดับ เป็นเม็ดยาของวันพฤหัสบดี ทำให้นึกได้ว่ามีการรับประทานยาคุมในวันพุธแล้ว จึงช่วยป้องกันให้ไม่ต้องรับประทานซ้ำซ้อนกัน

                หรือในทางตรงข้าม หากลืมรับประทานยาคุมในวันพุธ เม็ดยาของวันพุธก็จะยังตกค้างอยู่ในแผง เมื่อผู้ใช้เตรียมจะรับประทานยาคุมในวันพฤหัสบดี ก็จะเห็นว่าเม็ดยาที่รอการใช้ตามลำดับ เป็นเม็ดยาของวันพุธ ไม่ใช่เม็ดยาของวันพฤหัสบดี จึงสามารถแก้ไขได้อย่างเหมาะสม

                แต่ผู้ที่ไม่เคยรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดมาก่อน อาจไม่ทราบว่าหลังจากที่ใช้แผงเดิมหมดแล้ว ควรเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อแผงใหม่ จึงรับประทานต่อเนื่องแบบแผงชนแผง ทำให้ไม่มีประจำเดือนมา หรือเว้นว่างน้อยกว่า 7 วัน ทำให้รอบประจำเดือนสั้นกว่าที่ควรเป็น อย่างไรก็ตาม การต่อยาคุมแผงใหม่ก่อนกำหนด ไม่ได้ลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ

                ผู้ที่เคยรับประทานยาคุมที่มีเพียงลูกศรกำกับ หรือระบุตัวเลข 1 – 28 อยู่ในแผง เมื่อเปลี่ยนมาใช้ยาคุมที่ระบุตัวย่อของวันในสัปดาห์เป็นครั้งแรก อาจสับสนว่าควรรับประทานตามตัวย่อของวันที่ระบุไว้ หรือควรเริ่มจากเม็ดยาที่อยู่มุมแผง เนื่องจากยาคุมที่เคยใช้ จะวางเม็ดยาลำดับแรกไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งในแผงนั่นเอง

                และปัญหาที่พบได้ทั่วไป ทั้งผู้ที่รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดครั้งแรก และผู้ที่ใช้อยู่ประจำ ก็คือ ลืมว่าเว้นว่างครบ 7 วันแล้ว และต่อยาคุมแผงใหม่ช้าเกินกำหนด  ซึ่งในกรณีนี้อาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ หรืออาจทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ

                ส่วนยาคุมยี่ห้อเดียวกัน แต่มีรูปแบบ 28 เม็ด จะมีทั้งเม็ดยาฮอร์โมนและเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง หากใช้ผิดลำดับ โดยใช้เม็ดยาหลอกแทนเม็ดยาฮอร์โมน อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้

                จึงมีการระบุลำดับในแผงเป็น “ตัวเลข 1 – 28” เพื่อเน้นให้ผู้ใช้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนจนครบ 21 เม็ดก่อน จากนั้นจึงรับประทานเม็ดยาหลอกเป็น 7 เม็ดสุดท้าย

ยาคุมแบบ 28 เม็ด จะเรียงลำดับตามตัวเลข 1 - 28 เพื่อให้เม็ดยาฮอร์โมนมาก่อนเม็ดยาหลอก

                และเนื่องจากตัวเลข 1 – 28 นั้น คือลำดับการใช้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ตรงกับวันใดในสัปดาห์ หรือตรงกับวันที่เท่าไหร่ของเดือนก็ตาม เม็ดยาหมายเลข 1 ก็จะต้องเป็นเม็ดแรกที่แกะมารับประทานเสมอ

                จากนั้นก็ใช้ต่อตามลำดับวันละเม็ด ไปเรื่อย ๆ จนถึงเม็ดยาหมายเลข 28

                และเมื่อใช้หมดแผงเดิมแล้ว ก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย

                ซึ่งข้อดีของการรับประทานต่อเนื่องกันทุกวันเช่นนี้ ก็คือ ง่ายที่ผู้ใช้จะต่อยาคุมได้ตรงตามกำหนดนะคะ

                อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของยาคุมที่ระบุตัวเลข 1 – 28 ก็มีเช่นกันค่ะ เป็นต้นว่า ผู้ใช้บางรายอาจสับสนว่าควรเริ่มรับประทานจากหมายเลข 1 หรือควรเลือกหมายเลขที่ตรงกับวันที่ในปฏิทิน

                หรือแม้จะเลือกลำดับการใช้ถูกต้อง แต่ก็ตรวจสอบประจำวันได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถนำตัวเลขในแผงมาใช้อ้างอิงกับวันในสัปดาห์หรือวันที่ในปฏิทิน จึงเสี่ยงที่จะมีการรับประทานซ้ำซ้อนมากกว่า 1 เม็ดในแต่ละวัน หรือข้ามการใช้ในบางวันโดยไม่รู้ตัว

                แม้ว่าวิธีการใช้ จะเป็นสิ่งที่ใช้พิจารณาว่าควรเลือกยาคุมแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด แต่ก็ยังตัดสินใจได้ยากว่ารูปแบบไหนที่ดีกว่า เนื่องจากมีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งคู่

                ในเบื้องต้น แนะนำให้เลือกตามความถนัดหรือปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งคำตอบที่ได้อาจต่างกันไปในแต่ละคน

                จากนั้น ก็ใช้เคล็ดลับพิเศษเพื่อลดข้อเสียของยาคุมรูปแบบที่เลือกนะคะ

                เป็นต้นว่า ใครที่ถนัดการใช้เรียงตามวัน หรือกังวลว่าอาจรับประทานซ้ำซ้อนหรือข้ามการใช้โดยไม่รู้ตัว ก็ให้เลือกยาคุมแบบ 21 เม็ด เนื่องจากสามารถตรวจทานกับตัวย่อของวันในแผงได้

                และจำ หรือจดบันทึกไว้ในแผงยา, ปฏิทิน หรือโทรศัพท์มือถือ ว่าเริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงตรงกับวันใดในสัปดาห์

                เพราะหากมีการใช้อย่างถูกต้อง วันที่เริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงต่อ ๆ ไป ก็จะตรงกับวันเดียวกันนั่นเอง

                ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงตรงกับวันจันทร์ การรับประทานยาคุมในสัปดาห์ที่ 1 (เม็ดที่ 1 – 7 ของแผง), สัปดาห์ที่ 2 (เม็ดที่ 8 – 14) และสัปดาห์ที่ 3 (เม็ดที่ 15 – 21) ก็จะเรียงลำดับเป็น จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์

                และมีการเว้นว่าง 7 วันในสัปดาห์ที่ 4 ตามลำดับเดิม คือ จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์

                จากนั้น ก็จะเริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงถัดไปในวันจันทร์ และไล่ลำดับไปเหมือนเดิมค่ะ

ควรเลือกรูปแบบยาคุมตามความถนัด และใช้เคล็ดลับป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากแต่ละวิธี

                แต่ใครที่ถนัดการใช้เรียงตามตัวเลข หรือกังวลว่าจะต่อยาคุมแผงใหม่ช้าเกินกำหนด ก็ให้เลือกยาคุมแบบ 28 เม็ด ซึ่งผู้ใช้จะรับประทานติดต่อกันทุกวันโดยไม่ต้องเว้นว่าง

                และจำ หรือจดบันทึกไว้ในแผงยา, ปฏิทิน หรือโทรศัพท์มือถือ ว่าเริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงตรงกับวันใดในสัปดาห์

                ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการไล่ลำดับว่าเม็ดยาที่ใช้ จะตรงกับวันใด

                โดยยึดหลักการที่ว่า หากมีการใช้ถูกต้อง เม็ดแรกของแต่ละแถว (นั่นคือ เม็ดยาหมายเลข 1, 8, 15 และ 22) ก็จะตรงกับวันเดียวกันของสัปดาห์

                ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มรับประทานเม็ดแรก หรือเม็ดยาหมายเลข 1 ตรงกับวันจันทร์ เม็ดแรกของแถวอื่น ๆ ได้แก่ เม็ดยาหมายเลข 8, 15 และ 22 ก็จะตรงกับวันจันทร์ด้วยนะคะ

                เมื่อจะรับประทานยาคุมในแต่ละวัน ก็สามารถไล่ลำดับจากเม็ดแรกของแถวที่ใช้อยู่ เพื่อตรวจทานว่าตรงกับวันที่ใช้จริงหรือไม่ โดยไม่จำเป็นจะต้องไล่ลำดับมาจากเม็ดแรกของแผงให้ยุ่งยากค่ะ

                นั่นคือ เมื่อจะรับประทานเม็ดยาหมายเลข 17 ซึ่งเป็นเม็ดลำดับที่ 3 ของแถวที่ 3 ก็ไล่ลำดับจากเม็ดที่ 15 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถว ได้เป็น จันทร์ – อังคาร – พุธ

                ซึ่งถ้าวันที่ใช้จริงตรงกับวันพุธ ก็แสดงว่ามีการใช้ยาคุมถูกต้องและครบถ้วนนั่นเองนะคะ