ยาส (Yaz) เป็นยาคุมรายเดือนสูตร 24/4 ที่นำเข้าโดยบริษัทไบเออร์ไทย จำกัด (Bayer Thai Co.,Ltd.) มีจุดเด่นในเรื่องของการลดสิว, ต้านการบวมน้ำ และรักษากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ราคาประมาณ 420 – 460 บาท
…
ในแผงยาคุมยาสจะมีเม็ดยาเคลือบฟิล์ม (Film-coated tablet) รวม 28 เม็ด โดยแบ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนที่มีสีชมพูจำนวน 24 เม็ด และเม็ดยาหลอกที่มีสีขาวอีก 4 เม็ด
เม็ดยาฮอร์โมนแต่ละเม็ดจะมีตัวยาเหมือนกัน นั่นคือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจนชื่อว่าเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinylestradiol) 0.02 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่าดรอสไพรีโนน (Drospirenone) 3 มิลลิกรัม
ส่วนเม็ดยาหลอกไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ
…
ยาสเป็นยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออลต่ำมาก (Ultra low dose pills) อาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ และการเกิดฝ้า จึงพบได้น้อย
ส่วน ดรอสไพรีโนน นอกจากจะมีผลต้านฤทธิ์แอนโดรเจน ช่วยลดปัญหาสิว, หน้ามัน และขนดกแล้ว ยังมีผลขับปัสสาวะอย่างอ่อน จึงไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มจากการบวมน้ำ
และเนื่องจากยาสเป็นยาคุมสูตร 24/4 (Extended-cycle 24/4 regimen) ซึ่งมีช่วงปลอดฮอร์โมนสั้น ๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนในช่วงที่ได้รับฮอร์โมนและช่วงที่ปลอดฮอร์โมนไม่แปรปรวนมาก ช่วยลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual syndrome; PMS) เช่น อารมณ์แปรปรวน, หงุดหงิด, ซึมเศร้า, เครียด, ปวดศีรษะ, ปวดประจำเดือน หรือเจ็บคัดตึงเต้านมได้
…
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาคุมกำเนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง โดยพบการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดจากการใช้ยาคุมสูตรที่มีเอทธินิลเอสตราไดออลรวมกับดรอสไพรีโนน 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นมากหากนำมาใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย
จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนใช้ยาส โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีการรับประทานยา/สมุนไพรใด ๆ อยู่ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการคุมกำเนิด และเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด รวมถึงการเกิดมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ หรือการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง/โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
…
ในกรณีที่หาซื้อยาสไม่ได้ สามารถใช้ ซินโฟเนีย (Synfonia) หรือ เฮอร์ซ (Herz) แทนได้ค่ะ
…
เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่ได้มีการตั้งครรภ์อยู่ แนะนำให้เริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน
ในกรณีนี้ ยาคุมจะสามารถยับยั้งการตกไข่ในรอบเดือนนั้นได้เลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีที่เริ่มใช้
…
หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ ก็สามารถเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกได้โดยไม่ต้องรอประจำเดือนนะคะ
แต่ในกรณีนี้ จะต้องรับประทานยาสติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะเริ่มคุมกำเนิดได้ ในระหว่างนั้น หากไม่มีผลป้องกันจากวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อยู่ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ
…
โดยทั่วไปจะแนะนำให้รับประทานยาคุมรายเดือนในเวลาก่อนนอนตอนกลางคืน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะลืมใช้ และลดอาการคลื่นไส้/อาเจียนที่อาจเกิดขึ้น
แต่เนื่องจากอาการคลื่นไส้/อาเจียนจากการใช้ยาคุมยาส เกิดขึ้นน้อย/ไม่รุนแรง ดังนั้น หากคุณผู้อ่านสะดวกที่จะรับประทานในเวลาอื่น ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลนะคะ
แต่จะต้องรับประทานต่อให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และลดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอย
…
ในแผงยาคุมยาสจะมีการระบุตัวเลข 1 – 28 ไว้ทั้ง 2 ด้าน
โดยให้ผู้ใช้เริ่มรับประทานจากหมายเลข 1 แล้วใช้ต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนถึงหมายเลข 28
ซึ่งประจำเดือนของผู้ใช้มักจะมาประมาณเม็ดที่ 27 หรือ 28 ของแผงค่ะ
เมื่อหมดแผงเดิมแล้วก็ให้เริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหายดีก่อน
…
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประจำวัน ป้องกันการรับประทานซ้ำซ้อน หรือรับประทานไม่ต่อเนื่อง ควร
เลือกแถบสติกเกอร์สำหรับวันที่เริ่มรับประทานยาวันแรก มาติดไว้ในส่วนที่ระบุว่า “Place weekdaysticker here” ซึ่งอยู่ด้านบนของแผง
โดยมีสติกเกอร์ให้เลือกใช้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ตามความถนัด
ยกตัวอย่างเช่น หากวันที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ตรงกับวันพุธ ก็ให้เลือกสติกเกอร์ที่ขึ้นต้นด้วย “พ.” (ซึ่งย่อมาจากวันพุธ) มาใช้
แล้วก็เริ่มรับประทานยาคุมจากจุดเริ่มต้น (Start) และใช้ต่อวันละเม็ดไปตามลำดับ ซึ่งผู้ใช้ควรตรวจสอบเทียบวันที่ระบุไว้ในแถบสติกเกอร์ ว่าตรงกับวันที่รับประทานจริงด้วยหรือไม่
…
หากลืมรับประทานเม็ดสีขาว ซึ่งเป็นเม็ดยาหลอกของยาส ให้แกะเม็ดที่ลืมทิ้งไป แล้วใช้เม็ดที่เหลือตามปกติ สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้ตามกำหนด โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
…
แต่ในกรณีที่ลืมรับประทานเม็ดสีชมพู ซึ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนของยาส ให้รับประทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ 1 เม็ด แล้วรอรับประทานยาคุมในเวลาที่เคยใช้ประจำอีก 1 เม็ด
หรือรับประทานทั้ง 2 เม็ดนั้นพร้อมกัน ถ้านึกได้ในเวลารับประทานยาคุมประจำวัน
จากนั้น ก็ใช้ต่อวันละเม็ดเหมือนเดิม
…
หากเริ่มใช้ยาคุมแผงดังกล่าวถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นแล้ว ถ้าลืมเม็ดยาฮอร์โมนไม่ถึง 48 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรต้องใช้ ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย
…
แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ไปจนกว่าจะได้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันครบ 7 วันอีกครั้ง
หากลืมรับประทานยาคุมในช่วงสัปดาห์แรกของแผง และมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย มีความเสี่ยงที่ยาคุมจะยับยั้งการตกไข่ในรอบเดือนนั้นไม่ทัน และอาจป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ได้ ดังนั้น หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองค่ะ
แต่ถ้าลืมในช่วงหลัง ๆ โดยเหลือเม็ดยาฮอร์โมนให้ใช้ต่อไม่ถึง 7 วัน หรือถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ก็ให้ข้ามการใช้เม็ดยาหลอกไปเลย นั่นคือ ให้ต่อแผงใหม่หลังจากที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนในแผงเดิมหมดแล้ว
การลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในช่วงท้าย ๆ ของแผง อาจทำให้ประจำเดือนมาเร็วกว่าที่คาดไว้นะคะ
หรือในทางกลับกัน ถ้าประจำเดือนไม่ได้มาก่อนกำหนด เมื่อต่อแผงใหม่โดยข้ามเม็ดยาหลอกก็อาจทำให้ประจำเดือนถูกเลื่อนออกไป โดยประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดยาหลอกของแผงใหม่นั่นเองค่ะ