ซีราเซท (Cerazette) เป็นยาคุมรายเดือนชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน สำหรับใช้ในสตรีที่ให้นมบุตร หรือผู้ที่ทนผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ได้ นำเข้าโดยบริษัทออร์กานอน ประเทศไทย จำกัด (Organon Thailand Ltd.) ราคาประมาณ 220 – 250 บาท มีจุดเด่นที่ใช้โปรเจสตินรุ่นใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และลดผลข้างเคียงลง
…
ในแผงยาคุมซีราเซทจะมีเม็ดยาเคลือบฟิล์ม (Film-coated tablet) สีขาว 28 เม็ด
ซึ่งทุกเม็ดก็คือเม็ดยาฮอร์โมน ที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่าดีโซเจสตริล (Desogestrel) เม็ดละ 0.075 มิลลิกรัม เท่ากันทุกเม็ด
…
เนื่องจากไม่มีเม็ดยาหลอก ดังนั้น เมื่อต้องใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน จึงไม่มีช่วงปลอดฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาเป็นรอบปกติในแต่ละเดือน
การมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนมา จึงเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ซีราเซท
…
แต่ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวที่ใช้ตัวยาดีโซเจสตริล มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งไข่ตก และใกล้เคียงกับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อการป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว การใช้ซีราเซทยังอาจช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ เนื่องจากไม่มีการตกไข่
และโปรเจสตินรุ่นที่ 3 อย่างดีโซเจสตริลมีฤทธิ์แอนโดรเจนไม่มาก ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาเรื่องสิว หน้ามัน หรือขนดก ที่มักพบจากยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวรุ่นดั้งเดิม
อีกทั้งยังไม่มีปัญหาเรื่องฝ้าและการบวมน้ำ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน
ส่วนอาการคลื่นไส้, อาเจียน และปวดศีรษะ แม้ว่าอาจพบได้บ้าง แต่ก็มักจะไม่รุนแรงเท่ากับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม
…
ดีโซเจสตริลในรูปแบบของยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด จึงสามารถใช้กับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง หรือต้องการหลีกเลี่ยงอาการอันไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
และสามารถใช้กับหญิงหลังคลอดที่ต้องการให้นมบุตร โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกที่แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากยาคุมชนิดนี้ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำนม, ปริมาณน้ำนม และระยะเวลาการให้นม
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีการรับประทานยาใด ๆ อยู่ ก็ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการใช้ซีราเซทด้วยนะคะ
…
ในประเทศไทย ไม่มียาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวยี่ห้ออื่นที่ใช้โปรเจสตินรุ่นที่ 3 เหมือนกับซีราเซท
ดังนั้น ในกรณีที่หาซื้อไม่ได้ แต่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ก็ต้องพิจารณาการใช้เอ็กซ์ลูตอน (Exluton) หรือเดลิต้อน (Dailyton) ซึ่งใช้โปรเจสตินรุ่นที่ 1 แต่ก็อาจพบปัญหาเรื่องสิว หน้ามัน และขนดก
หรือใช้สลินดา (Slinda) ซึ่งใช้โปรเจสตินรุ่นที่ 4 อีกทั้งยังมีช่วงปลอดฮอร์โมนให้ประจำเดือนมาตามรอบปกติด้วย
…
สำหรับหญิงหลังคลอดที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ (ไม่เว้นช่วงห่างเกิน 4 ชั่วโมงในเวลากลางวัน หรือเกิน 6 ชั่วโมงในเวลากลางคืน) จะทำให้มีระดับฮอร์โมนโปรแลคตินสูงและส่งผลยับยั้งการตกไข่
การให้นมบุตรจึงถือเป็นการคุมกำเนิดตามธรรมชาติ โดยเรียกวิธีคุมกำเนิดนี้ว่า Lactational Amenorrhea Method หรือ LAM และหากปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมก็จะมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม หากมีการให้น้ำและอาหารเสริมอื่น ๆ ร่วมด้วย ระยะเวลาในการดูดนมแม่ก็มักจะลดลง หรือเว้นช่วงห่างนานขึ้น จึงอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะยับยั้งไข่ตกแล้ว
ดังนั้น หากไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว หรือไม่มั่นใจว่าจะให้ลูกดูดนมจากเต้าได้บ่อยและนานเพียงพอ การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นวิธีหลักในการป้องกันการตั้งครรภ์ ก็จะให้ความมั่นใจได้มากกว่าค่ะ
…
โดยปกติจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ภายในช่วงเวลา 4 หรือ 6 สัปดาห์แรกหลังคลอดบุตร เพื่อให้มดลูกเข้าอู่ ช่องคลอดกระชับเข้าที่ น้ำคาวปลาหมดไป และแผลที่ช่องคลอดหรือแผลผ่าคลอดหายดีก่อน จึงอาจรอเริ่มยาคุมแผงแรกหลังรับการตรวจตามนัด 4 – 6 สัปดาห์หลังคลอด
แต่ถ้ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น อาจมีเพศสัมพันธ์ก่อนช่วงเวลาดังกล่าว และไม่ได้ให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถเริ่มรับประทานซีราเซทได้เลยนะคะ
…
การเริ่มใช้ซีราเซทสำหรับหญิงหลังคลอดที่ให้นมบุตร 1. หลังคลอดไม่ถึง 6 สัปดาห์ หากจำเป็นก็สามารถเริ่มใช้ซีราเซทได้เลย ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันที 2. หลังคลอด 6 สัปดาห์ – 6 เดือน และยังไม่มีประจำเดือนมาเลย 2.1 ถ้าเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว โดยให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ สามารถเริ่มใช้ซีราเซทได้เลย ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันที 2.2 ถ้าไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว หรือไม่ได้ให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ สามารถเริ่มใช้ซีราเซทได้โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนเช่นกัน แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม 3. หลังคลอด 6 สัปดาห์ขึ้นไป และมีประจำเดือนมาแล้ว 3.1 เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ควรเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีที่เริ่มใช้ 3.2 หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ ก็สามารถเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม |
การเริ่มใช้ซีราเซทสำหรับหญิงหลังคลอดที่ไม่ได้ให้นมบุตร 1. หลังคลอดไม่ถึง 21 วัน สามารถเริ่มใช้ซีราเซทได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีที่เริ่มใช้ 2. หลังคลอดตั้งแต่ 21 วันขึ้นไป แต่ยังไม่มีประจำเดือนมา ถ้ายังไม่มีเพศสัมพันธ์เลย หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ สามารถเริ่มใช้ซีราเซทได้โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม 3. มีประจำเดือนมาแล้ว 3.1 เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ควรเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน โดยจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีที่เริ่มใช้ 3.2 หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ ก็สามารถเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกได้เลยโดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม |
การเริ่มใช้ซีราเซทหลังการแท้งบุตร อาจมีไข่ตกได้เร็ว ทำให้เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อีกถ้ามีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน จึงควรเริ่มใช้ซีราเซทภายใน 7 วันหลังแท้งบุตร โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม ยกเว้นกรณีที่เริ่มใช้ซีราเซททันทีที่ยุติการตั้งครรภ์ จึงจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลย |
การเริ่มใช้ซีราเซทในกรณีอื่น ๆ ควรรอให้ประจำเดือนมาก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ แล้วเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน โดยถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีที่เริ่มใช้ หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ จะเริ่มใช้ซีราเซทแผงแรกโดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อนก็ได้ แต่หากไม่มีผลป้องกันจากวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อยู่ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังเริ่มยาคุม |
…
อาจเลือกรับประทานซีราเซทในเวลาก่อนนอน เช่นเดียวกับยาคุมรายเดือนทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงที่จะลืมรับประทาน
หรือถ้าสะดวกที่จะรับประทานในเวลาอื่น ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เนื่องจากพบอาการคลื่นไส้อาเจียนได้น้อยจากการใช้ซีราเซท
แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้ในเวลาใด เพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่อง ก็ควรรับประทานให้ตรงเวลาอย่างเคร่งครัดนะคะ
…
หากเทียบกับยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวรุ่นดั้งเดิม อย่างเอ็กซ์ลูตอนและเดลิต้อน ที่รับประทานช้ากว่าเวลาปกติได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง
ซีราเซทที่ใช้โปรเจสตินรุ่นใหม่ก็จะมีความยืดหยุ่นในการใช้มากกว่า เพราะสามารถรับประทานช้ากว่าเวลาปกติได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมงค่ะ
…
ในแผงของซีราเซทจะมีการระบุตัวย่อของวันในสัปดาห์เอาไว้
ให้เลือกเม็ดยาที่ระบุตัวย่อตรงกับวันที่จะรับประทาน เช่น ถ้าเริ่มใช้ยาคุมแผงนี้ในวันศุกร์ ก็ให้แกะเม็ดยาที่ระบุว่า “ศ” (ซึ่งย่อมาจากวันศุกร์) มาใช้เป็นเม็ดแรก
โดยจะเลือกเม็ดยาจากแถวบนสุดมาใช้ก่อน หรือจะเลือกจากแถวอื่น ๆ ก็ได้นะคะ เพราะเมื่อรับประทานตามลำดับไปเรื่อย ๆ ก็จะมีการใช้จนครบ 28 เม็ดไม่แตกต่างกัน
จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ด ตามลำดับที่เลือกไว้ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดแผง
เมื่อใช้ครบ 28 เม็ดแล้ว ก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา
…
ผู้ใช้ซีราเซทอาจไม่มีประจำเดือนมา หรืออาจมาไม่เป็นรอบเวลาที่แน่นอน แต่ถ้ามีการใช้ยาคุมถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะตั้งครรภ์
ดังนั้น แม้ว่าจะไม่มีประจำเดือนมา แต่เมื่อใช้แผงเดิมหมดแล้วก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลย
หรือถ้ามีประจำเดือนมากลางแผง ก็สามารถใช้ยาคุมแผงนั้นต่อได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องทิ้งแผงเดิมเพื่อไปเริ่มแผงใหม่
…
หากลืมรับประทานซีราเซทไม่เกิน 12 ชั่วโมง ให้รีบรับประทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ และยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ
…
แต่ถ้าลืมรับประทานซีราเซทเกิน 12 ชั่วโมง หรือลืมใช้ติดต่อกันหลายวัน ก็จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว
ถ้ายังไม่ถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ให้รับประทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ 1 เม็ด แล้วรอใช้เม็ดยาประจำวันนั้นตามเวลาปกติอีก 1 เม็ด
แต่ถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้รับประทานเม็ดที่ลืม 1 เม็ด พร้อมกับเม็ดยาที่ต้องใช้ในวันนั้น รวมกันเป็น 2 เม็ด
หลังจากนั้นก็รับประทานต่อวันละเม็ด ตามปกติ
แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปอีก 2 วันหลังกลับมาใช้ยาคุมต่อ
และควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดจากซีราเซท
ยกเว้นในกรณีของหญิงหลังคลอดไม่ถึง 6 เดือน ที่ยังไม่มีประจำเดือนมา หากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว และให้ลูกดูดนมจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ องค์การอนามัยโลกชี้ว่าน่าจะยังมีผลยับยั้งไข่ตกจากการให้นมบุตรอยู่ จึงไม่จำเป็นจะต้องงดมีเพศสัมพันธ์หรือใช้วิธีป้องกันสำรอง แม้ว่าจะลืมรับประทานซีราเซทเกิน 12 ชั่วโมงนะคะ