ฟีมีน30 (Femine30)

ฟีมีน30

                ยาคุมแบบ 28 เม็ดยี่ห้อ ฟีมีน30 (Femine30) หรือ ฟีมีน (Femine) สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ยาคุมรายเดือนต่อเนื่องกันทุกวัน ผลิตโดยบริษัท มิลลิเมด จำกัด (Millimed Co.,Ltd.) ราคาประมาณ 80 – 90 บาท

                ในแผงยาคุม ฟีมีน30 จะมีเม็ดยาตอกอัด (Compressed tablet) สีขาว 28 เม็ด โดยเม็ดยาขนาดเล็กจำนวน 21 เม็ด คือ เม็ดยาฮอร์โมน และเม็ดยาขนาดใหญ่จำนวน 7 เม็ด คือ เม็ดยาหลอก

ในแผงของ ฟีมีน30 จะมีเม็ดยาฮอร์โมนขนาดเล็ก 21 เม็ด และเม็ดยาหลอกขนาดใหญ่ 7 เม็ด

                เม็ดยาฮอร์โมนแต่ละเม็ดจะมีตัวยาเหมือนกัน นั่นคือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจนชื่อว่าเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinylestradiol) 0.03 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่าดีโซเจสตริล (Desogestrel) 0.15 มิลลิกรัม

                ส่วนเม็ดยาหลอกไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ

                ฟีมีน30 เป็นยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออลต่ำ (Low dose pills) อาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ บวมน้ำ หรือการเกิดฝ้า ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากเอทธินิลเอสตราไดออลได้บ้าง แต่ก็น้อยกว่ายาคุมฮอร์โมนสูง

                และแม้ว่าดีโซเจสตริลจะยังมีฤทธิ์แอนโดรเจนอยู่ แต่ก็ลดลงมากเมื่อเทียบกับโปรเจสตินรุ่นก่อน ผลข้างเคียงเรื่องสิว หน้ามัน หรือขนดก จึงพบได้น้อยเช่นกัน

                แต่พบการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดจากการใช้ยาคุมสูตรที่มีเอทธินิลเอสตราไดออลรวมกับดีโซเจสตริลได้ 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นมากหากนำมาใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือผู้ใช้มีความเสี่ยงอื่น ๆ ของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดร่วมด้วย

                เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว รวมถึงการเกิดมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ หรือการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง/โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวนะคะ

                ยาคุมรูปแบบ 28 เม็ดที่มีตัวยาเดียวกันและมีปริมาณฮอร์โมนในเม็ดยาเท่ากัน ซึ่งสามารถนำมาใช้แทน ฟีมีน30 ได้แก่ มาร์วีลอน28 (Marvelon28) และ ริต้า28 (Rita28)

                หรือจะใช้ยาคุมรูปแบบ 21 เม็ดที่มีตัวยาเหมือนกัน อย่าง มาร์วีลอน (Marvelon) และ ริต้า21 (Rita21) ก็ได้ค่ะ

                การใช้ยาคุมแผงแรก ควรเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ และยาคุมจะไปยับยั้งการตกไข่ตกในรอบเดือนนั้นเลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดทันทีที่เริ่มใช้

                หรือถ้ามั่นใจว่าไม่ได้กำลังตั้งครรภ์ จะเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกโดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อนก็ได้ แต่ต้องรับประทาน ฟีมีน30 ติดต่อกันครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิด ในระหว่างนั้น หากไม่มีผลป้องกันจากวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อยู่ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย

                เพื่อลดความเสี่ยงที่จะลืมใช้ และลดอาการคลื่นไส้/อาเจียนที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ผู้ใช้ยังไม่ชินกับยา แนะนำให้รับประทาน ฟีมีน30 ในเวลาก่อนนอนตอนกลางคืนนะคะ

                และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ ก็ควรรับประทานต่อเนื่องให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ

                ยาคุม ฟีมีน30 จะระบุตัวเลข 1 – 28 ไว้ในแผง โดยให้เริ่มรับประทานจากหมายเลข 1 แล้วใช้ต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนถึงหมายเลข 28

การใช้ยาคุมฟีมีน30 เรียงตามลำดับ 1 - 28

                ประจำเดือนจะมาประมาณเม็ดที่ 24 หรือ 25 ของแผง แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

                เมื่อหมดแผงเดิมแล้วก็ให้เริ่มแผงใหม่ในวันถัดมา เพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องค่ะ

                หากลืมรับประทานเม็ดยาขนาดใหญ่ที่อยู่ในแถวล่างสุด ซึ่งเป็นเม็ดยาหลอกของ ฟีมีน30 ให้แกะเม็ดที่ลืมทิ้งไป แล้วใช้เม็ดที่เหลือตามปกติ สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้ตามกำหนด โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

                แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดยาขนาดเล็กใน 3 แถวด้านบน ซึ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนของ ฟีมีน30 ไม่ว่าจะลืมแค่วันเดียว หรือลืมติดต่อกันหลายวัน ให้รับประทานเม็ดที่ลืม 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทานยาคุมในเวลาที่เคยใช้ประจำอีก 1 เม็ด

                หรือรับประทานทั้ง 2 เม็ดนั้นพร้อมกัน ถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว

                จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ดตามเดิม

                อ้างอิงแนวทางขององค์การอนามัยโลก (Selected practice recommendations for contraceptive use – 3rd edition; 2016) ในกรณีที่ลืมรับประทานยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออล 0.030 – 0.035 มิลลิกรัม มีข้อแนะนำเมื่อลืมรับประทาน ฟีมีน30 ดังนี้

                หากเริ่มใช้ยาคุมแผงดังกล่าวถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นแล้ว ถ้าลืมเม็ดยาฮอร์โมนไม่ถึง 72 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรต้องใช้ ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม

                แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว จึงควรลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ดังนี้…

  1. งดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ไปจนกว่าจะได้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันครบ 7 วันก่อน
  2. ถ้าลืมในช่วงสัปดาห์แรก และมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
  3. หากเหลือเม็ดยาฮอร์โมนให้ใช้ต่อไม่ถึง 7 วัน หรือถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ให้ต่อแผงใหม่หลังจากที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมด โดยไม่ต้องรับประทานเม็ดยาหลอกในแผงเดิม

                การลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในช่วงท้าย ๆ ของแผง อาจทำให้ในรอบนี้มีประจำเดือนมาเร็วกว่าวันที่คาดไว้เดิม

                หรือการที่ต่อยาคุมแผงใหม่โดยข้ามเม็ดยาหลอก ก็อาจทำให้ประจำเดือนถูกเลื่อนออกไป โดยจะมาในช่วงที่ใช้เม็ดยาหลอกของแผงใหม่ค่ะ