ยาคุม 21 เม็ด ถ้าเว้นเกิน 7 วัน จะต่อแผงใหม่ได้ไหม

ยาคุม 21 เม็ด ถ้าเว้นเกิน 7 วัน จะต่อแผงใหม่ได้ไหม

                เมื่อรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดหมดแผงก็จะเว้นว่าง 7 วัน จากนั้นจึงต่อยาคุมแผงใหม่ แต่ถ้าเว้นเกิน 7 วันไปแล้ว จะสามารถรับประทานยาคุมแผงใหม่ต่อได้เลยหรือไม่ และจะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหรือเปล่านะ

                ยาคุมแบบ 21 เม็ดเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่เป็นกลไกหลัก โดยมีประสิทธิภาพสูงมากกว่า 99% ดังนั้น หากรับประทานถูกต้องและเหมาะสม ก็น่าจะไม่มีไข่ตกในช่วงที่ใช้ยาคุมค่ะ

                เมื่อรับประทานหมดแผงเดิมแล้ว หากหยุดใช้ไปเลยก็จะไม่มีผลยับยั้งการตกไข่อีก ในรอบเดือนใหม่ที่ไม่มีการใช้ยาคุมจึงอาจมีไข่ตกได้ตามปกติ และมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันใด ๆ

                แต่ถ้ารับประทานยาคุมแผงใหม่ในวันที่ 8 ของการเว้นว่าง และใช้ต่อให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ ก็จะสามารถยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบเดือนใหม่ได้อีก จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องกันทุกวันนะคะ

                ในกรณีที่เว้นว่างเกิน 7 วันไปแล้ว หากยังต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีเดิมต่อ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (The Centers for Disease Control and Prevention; CDC) และคณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (The Faculty of Sexual and Reproductive Healthcare; FSRH) ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติ โดยให้รับประทาน 1 เม็ดทันทีที่ทำได้ แล้วรอรับประทานเม็ดต่อ ๆ ไปตามเวลาปกติ

                นับจากเวลาที่ควรต่อยาคุมแผงใหม่ ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง ถ้าห่างกันไม่ถึง 48 ชั่วโมง ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ

                แต่หากเริ่มแผงใหม่ช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป จะถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย จนกว่าจะรับประทานยาคุมติดต่อกันครบ 7 วัน และในช่วงที่ไม่มีการรับประทานยาคุม ถ้ามีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ป้องกัน ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีที่ทำได้ภายใน 72 ชั่วโมง1 หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมง2 หลังมีเพศสัมพันธ์

                อย่างไรก็ตาม หากยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (The World Health Organization; WHO) คำแนะนำที่กล่าวไปข้างต้นจะใช้สำหรับยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีเอสโตรเจน Ethinylestradiol ไม่เกิน 0.020 มิลลิกรัมค่ะ

                ส่วนยาคุมที่มีเอสโตรเจน Ethinylestradiol มากกว่า 0.020 มิลลิกรัม แต่ไม่ถึง 0.050 มิลลิกรัม องค์การอนามัยโลกขยายกรอบเวลาเพิ่มขึ้น นั่นคือ หากเริ่มแผงใหม่ช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป จึงจะถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ

                ดังนั้น ผู้ที่ใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ดที่มีเอสโตรเจน Ethinylestradiol เม็ดละ 0.020 มิลลิกรัม ที่ลืมต่อยาคุมแผงใหม่ ให้รีบรับประทาน 1 เม็ดทันทีที่ทำได้ แล้วรอรับประทานเม็ดต่อ ๆ ไปตามเวลาปกติ

                และหากต่อยาคุมช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป1-3 ก็จะถือว่าไม่มีผลคุมต่อเนื่องแล้ว จึงควร…

  1. งดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยไปอีก 7 วัน
  2. รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 72 ชั่วโมง1 หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมง2,3 หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่ได้รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ด

                สำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ดที่มีเอสโตรเจน Ethinylestradiol เม็ดละ 0.030 หรือ 0.035 มิลลิกรัม ถ้าลืมต่อยาคุมแผงใหม่ ให้รีบรับประทาน 1 เม็ดทันทีที่ทำได้ แล้วรอรับประทานเม็ดต่อ ๆ ไปตามเวลาปกติ เช่นเดียวกับคำแนะนำข้างต้นค่ะ ส่วนการพิจารณาว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหรือไม่ จะขึ้นอยู่แนวทางที่ใช้อ้างอิง ดังนี้

แนวทางของ CDC หรือ FSRHแนวทางของ WHO
หากต่อยาคุมช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป จะถือว่าไม่มีผลคุมต่อเนื่องแล้ว จึงควร…
1. งดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยไปอีก 7 วัน
2. รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 72 ชั่วโมง1 หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมง2 หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่ได้รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ด
หากต่อยาคุมช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป จะถือว่าไม่มีผลคุมต่อเนื่องแล้ว จึงควร…
1. งดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยไปอีก 7 วัน
2. รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 72 ชั่วโมง หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่ได้รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ด

                หากรับประทานยาคุมรายเดือนอย่างถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่มีผลคุมกำเนิดจากยา จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

                แต่การใช้ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการต่อแผงใหม่ที่ช้าเกินกำหนด จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด โอกาสตั้งครรภ์อาจกลายเป็น 7% (ข้อมูลจาก Trussell, 2018) หรืออาจทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องเลยก็ได้

                ดังนั้น จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ โดยรับประทานยาคุมให้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ และควรต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดด้วยนะคะ

เอกสารอ้างอิง

  1. FSRH CEU Guidance: Recommended Actions after Incorrect Use of Combined Hormonal Contraception, 2020.
  2. U.S. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 2016.
  3. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 3rd edition, 2016.