Tirzepatide ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนเพื่อจำหน่ายในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ด้วยชื่อการค้าว่า Mounjaro® (มอนจาโร) เป็นยาลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 โดยฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังสัปดาห์ละครั้ง ร่วมกับควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
อีกทั้งยังถูกนำมาใช้รักษาโรคอ้วน เนื่องจากพบว่าสามารถลดน้ำหนักได้ดี ซึ่งในบางประเทศได้แยกขึ้นทะเบียน Tirzepatide ด้วยชื่อการค้าว่า Zepbound® สำหรับข้อบ่งใช้นี้ค่ะ


แต่เพราะ Tirzepatide ไปลดการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ก็อาจรบกวนการดูดซึมยาที่รับประทานได้ ผู้ผลิตจึงเตือนผู้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดว่า ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยเป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังจากที่เริ่มใช้และเพิ่มขนาด หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดรูปแบบอื่น ๆ แทนการรับประทานยาคุมค่ะ
ซึ่งเมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการเลือกวิธีคุมกำเนิด (Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use) ของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งที่เผยแพร่ก่อน1,2 และหลัง3 การออกจำหน่ายของ Mounjaro® ในปี ค.ศ. 2022 และ Zepbound® ในปี ค.ศ.2023 ยังไม่มีการกล่าวถึงกรณีดังกล่าวนะคะ
อย่างไรก็ตาม คณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (FSRH) ได้ออกคำแนะนำ4 เพื่อตอบข้อซักถามของสมาชิกเกี่ยวกับการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับ Tirzepatide
โดยกล่าวว่า ผลการทดลองทางคลินิกที่ใช้ Tirzepatide ร่วมกับยาเม็ดฮอร์โมนรวมสูตร Ethinyl estradiol (EE) 0.035 มิลลิกรัมและ Norgestimate (NGM) 0.25 มิลลิกรัม ชี้ว่า Tirzepatide ลดการดูดซึมของยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์
แต่ด้วยข้อมูลที่จำกัด จึงต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น ในระหว่างนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ FSRH แนะนำให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ในเอกสารกำกับยาสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Summary of Product Characteristics: SmPC) และบัญชียาหลักแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (British National Formulary: BNF) นั่นคือ
ผู้ใช้ Tirzepatide ควรเลือกวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ใช่การรับประทานยา เช่น การใส่ห่วงคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด, การฉีดยาคุมกำเนิด, การใส่วงแหวนคุมกำเนิด และการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด
หรือถ้าใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ให้สวมถุงยางอนามัยร่วมด้วยเป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังจากเริ่มใช้ Tirzepatide และอีก 4 สัปดาห์หลังจากเพิ่มขนาดยา Tirzepatide แต่ละครั้ง
ผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร ที่อาจพบได้จากการใช้ Tirzepatide ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดท้อง เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย และท้องเสีย
โดยอาการท้องเสียและอาเจียน สามารถพบได้บ่อยมาก นั่นคือ มากกว่า 10% ของผู้ใช้
อีกทั้ง อาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย มักพบมากขึ้นในช่วงที่เพิ่มขนาดยา Tirzepatide และลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
คณะผู้เชี่ยวชาญของ FSRH จึงให้แนะนำเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ
ในกรณีที่ใช้ Tirzepatide แล้วทำให้อาเจียนหรือท้องเสีย ควรปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขเมื่ออาเจียนหลังรับประทานยาคุม หรือแนวทางแก้ไขเมื่อท้องเสียอย่างรุนแรงและต่อเนื่องนานกว่า 24 ชั่วโมง
และถ้าผู้ใช้ Tirzepatide ยังคงอาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง ควรพิจารณาวิธีคุมกำเนิดอื่นแทนการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีป้องกันสำรองร่วมด้วย
เอกสารอ้างอิง
- Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use. World Health Organization, 2015.
- UK Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 2016. (Amended September 2019)
- U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 2024.
- The FSRH CEU addresses member enquiries: Guidance on oral contraceptive use with GLP-1 agonists tirzepatide and semaglutide, 4th Dec 2024.