ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อโพสตินอร์, มาดอนน่า, แมรี่ พิงค์, แอปคาร์ นอร์แพก, เลดี้นอร์, แจนนี่ และ เอ-โพสน็อกซ์ ซึ่งเป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด หรือจะเป็นยี่ห้อเมเปิ้ล ฟอร์ท, แทนซี วัน และ มาดอนน่า วัน ซึ่งเป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ก็เป็นยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาเลโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel emergency contraceptive pill: LNG-ECP) เหมือนกันทุกยี่ห้อนะคะ
…
ย้อนกลับไปในอดีต มีรายงานเกี่ยวกับการตั้งครรภ์นอกมดลูก ในผู้ที่ป้องกันด้วยยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ผล ทำให้เกิดความกังวลว่า การใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้มากขึ้น
และเนื่องจากในช่วงนั้น ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาเลโวนอร์เจสเทรลที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีเฉพาะรูปแบบแผงละ 2 เม็ด กระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดให้ต้องแสดงคำเตือนไว้ในฉลากและเอกสารกำกับยาว่า “ไม่ควรรับประทานมากกว่า 4 เม็ดต่อเดือน”
ซึ่งหากปรับให้เป็นปัจจุบัน ที่ยาคุมฉุกเฉินมีทั้งแบบแผงละ 2 เม็ด และ 1 เม็ด ก็คือ “ไม่ควรรับประทานมากกว่า 2 แผงต่อเดือน” นั่นเอง
…
อย่างไรก็ตาม การศึกษาในเวลาต่อมาชี้ว่า การตั้งครรภ์นอกมดลูกในกลุ่มที่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้สูงไปกว่าที่พบในกลุ่มประชากรทั่วไป
ในปี พ.ศ.2543 กระทรวงสาธารณสุขจึงมีคำสั่งปรับปรุงแก้ไขการแสดงรายละเอียดในฉลากและเอกสารกำกับยาให้เหมาะสม โดยไม่ต้องแสดงข้อความดังกล่าวอีกต่อไป
ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในปัจจุบัน จึงไม่มีการระบุข้อควรระวังว่า “ไม่ควรรับประทานมากกว่า 2 แผงต่อเดือน” ไว้ในฉลากและเอกสารกำกับยาค่ะ
…
ถึงกระนั้น ข้อควรระวังที่ว่า “ไม่ควรรับประทานมากกว่า 2 แผงต่อเดือน” ยังคงถูกบอกต่อเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ และในบางครั้ง ก็ผิดเพี้ยนไปเป็น “ตลอดชีวิต ไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 แผง” ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์นอกมดลูก, การมีบุตรยาก, ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง หรือเกิดปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ ตามมาในอนาคต
แม้จะช่วยให้เกิดความตระหนัก ว่าไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินความจำเป็น
แต่ในทางกลับกัน ก็อาจเปลี่ยนเป็นความตระหนก จนทำให้ผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องคุมกำเนิดฉุกเฉินบางราย เกิดความลังเลใจ จนพลาดโอกาสในการใช้ หรือมีการใช้ล่าช้ากว่าที่ควรเป็น และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไม่พร้อม
…
จากประเด็นที่เป็นข้อสงสัยหรือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน องค์การอนามัยโลกจึงได้มีคำชี้แจง1 ว่ายาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล…
- ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ไม่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous thromboembolism: VTE)
- ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่าง ๆ
- ไม่ได้ทำให้มีบุตรยาก
- ไม่พบความเสี่ยงร้ายแรง แม้มีการใช้เกินขนาด หรือใช้ซ้ำมากกว่า 1 ครั้งในรอบเดือนเดียวกัน
- ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือถาวร
- ไม่ทำให้แท้งบุตร และไม่พบความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
- สามารถใช้ในระหว่างที่ให้นมบุตรได้
…
ดังนั้น หากมีความจำเป็นที่จะต้องคุมกำเนิดฉุกเฉิน เช่น ถูกข่มขืน, ถุงยางฉีกขาด หรือลืมรับประทานยาคุมรายเดือนติดต่อกันหลายวัน ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้นะคะ
และแม้ว่าจะเคยใช้ไปแล้วในรอบเดือนเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นครั้งหนึ่งหรือมากกว่าก็ตาม หากจำเป็นก็ยังสามารถรับประทานซ้ำได้อีก2,3ค่ะ
แต่ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง จึงต้องทบทวนเพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม หากเกิดเหตุฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง
เช่น ตรวจสอบคุณภาพ, การเลือกขนาด, การเก็บรักษา และวิธีการใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดปัญหาฉีกขาดเมื่อใช้งาน
หรือเปลี่ยนจากการรับประทานยาคุมรายเดือน ไปเป็นการฉีดยาคุมหรือฝังยาคุม ซึ่งจะมีผลป้องกันได้นาน จึงไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ เพื่อลดความผิดพลาดจากการลืมรับประทาน
…
การจำกัดจำนวนการใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่เกิน 2 แผงต่อเดือน ที่เคยมีมาในอดีต ไม่ใช่ “โควตา” ที่จะสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานได้อย่างปลอดภัยนะคะ
และการยกเลิกคำเตือนดังกล่าวในปัจจุบัน ก็ไม่ใช่การสนับสนุนให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินได้โดยไม่มีข้อจำกัด
เพราะแม้ว่าจะปลอดภัย ในแง่ที่ว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือถาวร แต่ก็ไม่ปลอดภัย ในแง่ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์เพราะป้องกันล้มเหลว เนื่องจากประสิทธิภาพไม่สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน
นั่นหมายถึง ไม่ว่าจะมีการจำกัดจำนวนหรือไม่ ข้อควรตระหนักที่ตรงกัน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก็คือ “ยาคุมฉุกเฉิน…ควรใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น” ค่ะ
…
การนับวันปลอดภัย หรือ หน้า 7 – หลัง 7, การหลั่งนอก รวมถึงการนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เนื่องจากประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน และมีโอกาสผิดพลาดสูง
ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย หรือไม่ต้องการจะใช้ยาคุมรายเดือนหรือฮอร์โมนคุมกำเนิดอื่น ๆ แนะนำให้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกวิธี นอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีแล้ว ยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
…
เอกสารอ้างอิง
- Fact sheet on the safety of levonorgestrel-alone emergency contraceptive pills (LNG ECPs). World Health Organization, 2010.
- American College of Obstetricians and Gynecologists. ACOG Practice Bulletin No. 152: Emergency Contraception. Obstet Gynecol; 2015, reaffirmed 2019.
- FSRH Guideline Emergency Contraception, March 2017 (Amended December 2020).