ในระหว่างที่ยังให้นมอยู่ ถ้ามีความจำเป็นต้องคุมกำเนิดฉุกเฉิน สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้หรือไม่ จะเลือกแบบไหน รับประทานอย่างไร และควรงดให้นมหลังใช้ด้วยหรือเปล่า
1. ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาเลโวนอร์เจสเทรล (LNG-EC)
ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย บางยี่ห้อจะเป็นยาคุมแบบ 1 เม็ด ตัวอย่างเช่น เมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple forte), แทนซี วัน (Tansy one), มาดอนน่า วัน (Madonna one), รีโวค-1.5 (Revoke-1.5) และ โพสต์ 1 ฟอร์ต (Post 1 forte)
หรือบางยี่ห้อก็เป็นยาคุมแบบ 2 เม็ด ตัวอย่างเช่น โพสตินอร์ (Postinor), มาดอนน่า (Madonna), แมรี่ พิงค์ (Mary pink), แอปคาร์ นอร์แพก (ABCA Norpak), เลดี้นอร์ (Ladynore), แจนนี่ (Janny) และ เอ-โพสน็อกซ์ (A-Posnox)

ทุก ๆ ยี่ห้อที่กล่าวมา ถือเป็นยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีตัวยาเลโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel) เพียงอย่างเดียว โดยยาคุมแบบ 1 เม็ด จะมีตัวยาเลโวนอร์เจสเทรล 1.5 มิลลิกรัม ส่วนยาคุมแบบ 2 เม็ดจะมีตัวยาเลโวนอร์เจสเทรลเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม หรือเท่ากับแผงละ 1.5 มิลลิกรัมเหมือนกันนั่นเอง
แม่ให้นมใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้ได้ค่ะ และสามารถให้นมได้ตามปกติหลังรับประทาน เพราะแม้ว่าตัวยาเลโวนอร์เจสเทรลจะถูกหลั่งออกมาทางน้ำนม แต่ก็ในปริมาณที่น้อยมาก และยังไม่พบผลเสียใด ๆ ต่อทารก2-4,6,8
หรืออาจรับประทานทันทีหลังให้นมลูกเสร็จ แล้วงดให้นมนาน 8 ชั่วโมงหลังรับประทาน เพื่อลดปริมาณยาที่ทารกอาจได้รับจากน้ำนมแม่ ตามคำแนะนำของบางบริษัทยาก็ได้เช่นกัน3
ซึ่งวิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาเลโวนอร์เจสเทรลของแม่ให้นม ก็เหมือนกับหญิงทั่วไปนะคะ นั่นคือ รับประทานครบขนาด 1.5 มิลลิกรัมในครั้งเดียวได้เลย1,3,5,7 ดังนั้น ถ้าใช้ยี่ห้อที่มี 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มี 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันครั้งเดียว
โดยจะต้องรับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือให้เร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 72 ชั่วโมง3 หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมง1,5,7 หลังมีเพศสัมพันธ์
และถ้าอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง1,5 หรือภายใน 3 ชั่วโมง3,7 หลังรับประทาน ก็จะต้องรับประทานซ้ำ เพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมาค่ะ
2. ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยายูลิพริสทอล อะซิเตท (UPA-EC)
ยาคุมชนิดนี้ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยนะคะ ส่วนที่ใช้ในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น Ella® (ชื่อการค้าที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา) หรือ EllaOne® (ชื่อการค้าที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป) เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ซึ่งมีตัวยายูลิพริสทอล อะซิเตท (Ulipristal acetate) อยู่ 30 มิลลิกรัม
โดยให้รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และถ้าอาเจียนภายใน 3 ชั่วโมงหลังรับประทาน ก็จะต้องรับประทานซ้ำ เพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมา1,3,5,7
ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยายูลิพริสทอล อะซิเตท สามารถใช้ในกลุ่มแม่ให้นมได้เช่นกันค่ะ แม้จะพบตัวยาสำคัญปริมาณเล็กน้อยในน้ำนม แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเกิดผลกระทบต่อทารกหรือการผลิตน้ำนม
เดิมนั้น แนวทางของสหรัฐอเมริกาฉบับปี ค.ศ.2016 แนะนำว่าควรงดให้นมนาน 24 ชั่วโมงหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้ แต่ฉบับปี ค.ศ.2024 ไม่พบข้อความดังกล่าวอยู่แล้ว และไม่ระบุข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมใด ๆ6
แต่หากยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก รวมถึงแนวทางของสหราชอาณาจักร จะแนะนำการงดให้นมนาน 1 สัปดาห์หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยายูลิพริสทอล อะซิเตท โดยควรบีบน้ำนมทิ้งเรื่อย ๆ เพื่อกระตุ้นไม่ให้น้ำนมหยุดไหล3,4,8
3. ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวม (Combined EC หรือ Yuzpe regimen)
Preven® เป็นตัวอย่างของยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งเคยมีจำหน่ายอยู่ในบางประเทศ โดยเป็นยาคุมแบบ 4 เม็ด ซึ่งมีตัวยาเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl estradiol) เม็ดละ 0.05 มิลลิกรัม รวมกับเลโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel) อีกเม็ดละ 0.25 มิลลิกรัม โดยรับประทานครั้งละ 2 เม็ด รวม 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 12 ชั่วโมง
ควรรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์1,5,7 และถ้าอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง1,5 หรือภายใน 3 ชั่วโมง7 หลังรับประทาน ก็จะต้องรับประทานซ้ำ เพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมา
ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวมไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยนะคะ จึงต้องนำเอายาคุมรายเดือนมาปรับใช้ เพื่อให้ได้ตัวยาเอทธินิลเอสตราไดออลครั้งละ 0.1 มิลลิกรัม และเลโวนอร์เจสเทรลครั้งละ 0.5 มิลลิกรัม1,5,7 เช่น รับประทานเม็ดฮอร์โมนของหรือเอทธินิลเอสตราไดออลครั้งละ 0.1 มิลลิกรัม และนอร์เจสเทรลครั้งละ 1 มิลลิกรัม1) แล้วรับประทาน 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
ยกตัวอย่างเช่น รับประทานยาคุมโลล่า (Lola) ครั้งละ 5 เม็ด รวม 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
หรือ รับประทานยาคุมดิออร์รา 21 (Diora 21), เลอร์เมร่า (Lermera), นอร์เกสเต้ (Norgeste) หรือเม็ดฮอร์โมนของยาคุมแอนนา (Anna), ไมโครเลนิน 30 อีดี (Microlenyn 30 ED), ดิออร์รา 28 (Diora 28), อาร์เดน (R-den), โซฟี่ 28 (Sophie 28), ไมโครไกนอน 30 อีดี (Microgynon 30 ED) อย่างใดอย่างหนึ่ง ครั้งละ 4 เม็ด รวม 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
หรือ รับประทานเม็ดฮอร์โมนของยาคุมเจนนี่ เอฟ.เอ็ม.พี. (Jeny F.M.P.) หรือมาร์นอน (Marnon) ครั้งละ 2 เม็ด รวม 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
แม้จะสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องงดให้นมหลังรับประทานยา4,6 แต่การคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบฮอร์โมนรวมก็ไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องด้วยประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า และมีผลข้างเคียงมากกว่า เมื่อเทียบกับยาคุมฉุกเฉินชนิดอื่น อีกทั้งยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาเลโวนอร์เจสเทรลก็หาซื้อได้ง่าย และมีราคาไม่แพงค่ะ
เอกสารอ้างอิง
- Family planning: A Global Handbook for Providers, 2022 edition.
- FSRH Guideline: Contraception After Pregnancy, January 2017. (Amended October 2020)
- FSRH Guidance: Emergency Contraception, 2017. (Amended July 2023)
- Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use. World Health Organization, 2015.
- Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 3rd edition. World Health Organization, 2016.
- U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 2024.
- U.S. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use. Centers for Disease Control and Prevention, 2024.
- UK Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 2016. (Amended September 2019)