ออนเจล20 (Onjel20)

ออนเจล20

                ออนเจล20 (Onjel20) หรือ ออนเจล (Onjel) เป็นยาคุมรายเดือนแบบ 28 เม็ดของบริษัท มิลลิเมด จำกัด (Millimed Co.,Ltd.) ยาคุมสูตรนี้มีผลข้างเคียงต่ำ ราคาประมาณ 90 – 110 บาท

                ในแผงยาคุม ออนเจล20 จะมีเม็ดยาเคลือบน้ำตาล (Sugar coated tablet) รวม 28 เม็ด แบ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนสีขาว จำนวน 21 เม็ด และเม็ดยาหลอกสีน้ำตาล จำนวน 7 เม็ด

ในแผงของ ออนเจล20 จะมีเม็ดยาฮอร์โมนสีขาว 21 เม็ด และเม็ดยาหลอกสีน้ำตาล 7 เม็ด

                เม็ดยาฮอร์โมนแต่ละเม็ดจะมีตัวยาเหมือนกัน นั่นคือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจนชื่อว่าเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinylestradiol) 0.020 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสตินชื่อว่าเจสโตดีน (Gestodene) 0.075 มิลลิกรัม

                ส่วนเม็ดยาหลอกไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ

                ออนเจล20 เป็นยาคุมที่มีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออลต่ำมาก (Ultra low dose pills) ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ว่าจะเป็น คลื่นไส้/อาเจียน ปวด/เวียนศีรษะ บวมน้ำ หรือฝ้า จึงพบได้น้อย

                ฤทธิ์แอนโดรเจนของเจสโตดีนจะสูงกว่าโปรเจสตินรุ่นที่ 3 ตัวอื่น แต่เนื่องจากมีการใช้ในขนาดที่ต่ำมาก ปัญหาเรื่องสิว หน้ามัน หรือขนดก จึงพบได้น้อยจากการใช้ ออนเจล20

                และแม้จะพบผลต้านการบวมน้ำในสัตว์ทดลอง แต่ในมนุษย์กลับพบน้อยมากหรือไม่พบเลย ออนเจล20 จึงไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มยาคุมที่มีผลต้านการบวมน้ำ

                การใช้ยาคุมกำเนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด โดยพบจากยาคุมสูตรที่มีเอทธินิลเอสตราไดออลรวมกับเจสโตดีน 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี และอาจเพิ่มขึ้นมากหากนำมาใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย

                จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนใช้ ออนเจล20 โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีการรับประทานยา/สมุนไพรใด ๆ อยู่ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการคุมกำเนิด และเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด รวมถึงการเกิดมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ หรือการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง/โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

                ยาคุมรูปแบบ 28 เม็ดที่มีตัวยาเดียวกันและมีปริมาณฮอร์โมนในเม็ดยาเท่ากัน ซึ่งสามารถนำมาใช้แทน ในกรณีที่หาซื้อ ออนเจล20 ไม่ได้ ได้แก่ เมลลิแอนอีดี (MelianeED), แอนนี่ลินน์28 (Annylyn28) และ คลาเรนซ์28 (Clarenz28)

                หรือจะใช้ยาคุมรูปแบบ 21 เม็ดที่มีตัวยาเหมือนกัน อย่าง เมลลิแอน (Meliane), แอนนี่ลินน์ (Annylyn), คลาเรนซ์ (Clarenz) หรือ ไซโคลเม็กซ์-20 (Ciclomex-20) ก็ได้ค่ะ

                แนะนำให้เริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันที เพราะยาคุมสามารถยับยั้งการตกไข่ในรอบเดือนนั้นได้เลย

                หรือถ้ามั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่แน่นอน จะเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกโดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนก็ได้ แต่จะไม่มีผลคุมกำเนิดทันที ดังนั้น หากไม่มีผลป้องกันจากวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อยู่ ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไปจนกว่าจะรับประทาน ออนเจล20 ติดต่อกันครบ 7 วัน

                แม้ว่าอาการคลื่นไส้อาเจียนจะเกิดขึ้นได้น้อยจากการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำมากอย่าง ออนเจล20 แต่ก็แนะนำให้รับประทานในเวลาก่อนนอนตอนกลางคืน ทั้งเพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้บางราย รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะลืมใช้

                และควรรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ง่าย และยังอาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์อีกด้วย

                ในแผงยาคุม ออนเจล20 จะระบุตัวเลข 1 – 28 ไว้ในแผง โดยให้เริ่มรับประทานจากหมายเลข 1 แล้วใช้ต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนถึงหมายเลข 28

การใช้ยาคุมออนเจล20 เรียงตามลำดับ 1 - 28

                ซึ่งประจำเดือนของผู้ใช้มักจะมาประมาณเม็ดที่ 24 หรือ 25 ของแผง แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

                เมื่อหมดแผงเดิมแล้วก็ให้เริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหายดีก่อน

                หากลืมรับประทานเม็ดยาสีน้ำตาล (เม็ดที่ 22 – 28 ของแผง) ซึ่งเป็นเม็ดยาหลอกของ ออนเจล20 ให้แกะเม็ดที่ลืมทิ้งไป แล้วใช้เม็ดที่เหลือตามปกติ สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้ตามกำหนด โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

                แต่ในกรณีที่ลืมรับประทานเม็ดยาสีขาว (เม็ดที่ 1 – 21) ซึ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมนของ ออนเจล20 ไม่ว่าจะลืมแค่วันเดียว หรือลืมต่อเนื่องกันหลายวันก็ตาม ในวันที่นึกได้ ให้รับประทานเม็ดที่ลืม 1 เม็ดทันทีที่ทำได้ แล้วรอรับประทานยาคุมในเวลาที่เคยใช้ประจำอีก 1 เม็ด

                หรือถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้รับประทานเม็ดที่ลืม 1 เม็ดพร้อมกับเม็ดยาที่ต้องใช้ในวันนั้นอีก 1 เม็ด แต่การรับประทานยาคุมพร้อมกัน 2 เม็ดเช่นนี้ อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หรือเวียนศีรษะ

                จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ดตามเดิม

                หากเริ่มใช้ยาคุมแผงดังกล่าวถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นแล้ว ถ้าลืมเม็ดยาฮอร์โมนไม่ถึง 48 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรต้องใช้ ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ เพิ่มเติม

                แต่ถ้าลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป มีข้อแนะนำดังนี้…

  1. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไปจนกว่าจะได้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันครบ 7 วันก่อน
  2. ถ้าลืมในช่วงสัปดาห์แรก และมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองทันทีที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
  3. หากเหลือเม็ดยาฮอร์โมนให้ใช้ต่อไม่ถึง 7 วัน หรือถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว ให้ต่อแผงใหม่หลังจากที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมด โดยไม่ต้องรับประทานเม็ดยาหลอกในแผงเดิม

                การลืมรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในช่วงท้าย ๆ ของแผง อาจทำให้ในรอบนี้มีประจำเดือนมาเร็วกว่าวันที่คาดไว้เดิม

                หรือการที่ต่อยาคุมแผงใหม่โดยข้ามเม็ดยาหลอกไป ก็อาจทำให้ในรอบนี้ไม่มีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะ